ภาพแห่งความทรงจำ พระราชกรณียกิจ ที่ยังคงประทับอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทุกคน คือ พระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประทับเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังดินแดนทุรกันดารทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนและแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของราษฎร
พระองค์ทรงมีปณิธานอันแน่วแน่ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ผ่านพระราชดำริและโครงการต่างๆ ที่สำคัญมากมาย ซึ่งได้สร้างประโยชน์แก่ปวงชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง


ศาลารวมใจ: ศูนย์รวมจิตใจของชุมชน
ในปี พ.ศ. 2519 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “ศาลารวมใจ” ขึ้นเป็นห้องสมุดอเนกประสงค์เพื่อพระราชทานแก่ราษฎรทุกเพศทุกวัย โดยไม่จำกัดระดับการศึกษา แม้กระทั่งผู้ที่ไม่รู้หนังสือก็สามารถเข้าถึงได้
ภายในศาลารวมใจประกอบด้วย:
ห้องสมุด มีหนังสือหลากหลายประเภท ตั้งแต่คู่มือการเกษตร ความรู้ทั่วไป ไปจนถึงนวนิยาย พร้อมภาพและสมุดภาพเกี่ยวกับประเทศไทย เพื่อให้ราษฎรเข้าใจความเป็นไปของบ้านเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่นกับโลกภายนอก
ห้องปฐมพยาบาล มียาพระราชทานพื้นฐานสำหรับช่วยเหลือชาวบ้าน โดยมีการคัดเลือกราษฎรในหมู่บ้านมาฝึกอบรมหลักสูตร “หมอหมู่บ้าน” เพื่อให้ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย
ศาลารวมใจส่วนใหญ่สร้างใกล้วัดหรือในบริเวณวัด เพื่อให้วัดคงความเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านและเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนเช่นเดิม ศาลารวมใจแห่งแรกคือศาลารวมใจพร้าว ตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่


คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ ทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร พระองค์จะทรงพบว่าราษฎรป่วยเจ็บมาเฝ้าฯ เป็นจำนวนมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ตามเสด็จตรวจรักษา และหากจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็จะโปรดเกล้าฯ ให้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในภูมิภาคนั้น หรือกรุงเทพฯ หากต้องการแพทย์เฉพาะทาง
นอกจากนี้ ยังโปรดเกล้าฯ ให้จัด “หน่วยแพทย์พระราชทาน” เดินทางไปให้การตรวจรักษาตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะ ทั้งทางรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ แล้วแต่ภูมิประเทศ


ทรงเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย
พระองค์ทรงตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยที่ดีงามมาแต่โบราณ ในปี พ.ศ. 2503 เมื่อมีกำหนดการตามเสด็จไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ พระองค์ทรงพระราชดำริว่าสตรีไทยควรมีเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติ จึงมีพระเสาวนีย์ให้ปรับปรุงแบบเสื้อไทยโบราณให้ทันสมัย
ผลลัพธ์คือ “ชุดไทยพระราชนิยม” 8 แบบ ได้แก่:
1. ชุดไทยเรือนต้น
2. ชุดไทยจิตรลดา
3. ชุดไทยอมรินทร์
4. ชุดไทยบรมพิมาน
5. ชุดไทยจักรี
6. ชุดไทยดุสิต
7. ชุดไทยศิวาลัย
8. ชุดไทยจักรพรรดิ์
ชุดไทยเหล่านี้ใช้ชื่อที่เกี่ยวกับพระที่นั่งและพระตำหนัก สอดคล้องกับโอกาสและความเหมาะสมในการใช้ ปัจจุบันชุดไทยพระราชนิยมได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


ทรงพิทักษ์รักษาสรรพสิ่ง
พระองค์โปรดธรรมชาติยิ่งนัก ทรงเข้าพระทัยถึงความสำคัญของป่าไม้และต้นน้ำลำธารที่มีต่อชีวิตมนุษย์ ทรงสอนข้าราชบริพารให้ช่วยรักษาป่า และเมื่อทรงพบไฟป่าก็จะทรงหยุดขบวนเพื่อดับไฟหรือแจ้งเจ้าหน้าที่
เมื่อทรงพบว่าป่าไม้ถูกทำลายจนเหลือน้อยลง ในปี พ.ศ. 2525 พระองค์จึงริเริ่ม “โครงการป่ารักน้ำ” ที่จังหวัดสกลนครเป็นครั้งแรก โดยหาที่ดินรกร้างหรือป่าเสื่อมโทรมมาปลูกต้นไม้หลายชนิด ประกอบด้วยไม้โตเร็ว ไม้เศรษฐกิจ และไม้ใช้สอย ปลูกสลับกันไป เพื่อให้ไม้โตเร็วเป็นร่มเงาแก่ไม้เศรษฐกิจ
สำหรับสวนสัตว์ป่า พระองค์ทรงอนุรักษ์สัตว์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์มานานก่อนกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะเป็นที่นิยม โดยเมื่อมีชาวบ้านนำสัตว์ป่ามาถวาย จะโปรดเกล้าฯ ให้เลี้ยงไว้เพื่อขยายพันธุ์ แล้วนำไปปล่อยคืนสู่ป่า
ส่งเสริมอาชีพและศิลปาชีพ
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 ทรงก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อส่งเสริมให้ชาวไร่ชาวนาผลิตงานศิลปหัตถกรรมเป็นอาชีพเสริม
พระองค์ทรงตระหนักว่าชาวไร่ชาวนาผู้ผลิตอาหารควรมีอาชีพเสริมเพื่อไม่ต้องขายที่ดินหรือเป็นหนี้สิน และไม่ต้องทิ้งถิ่นไปทำมาหากินในเมืองใหญ่ อาชีพเสริมนี้จะต้องสามารถประกอบที่บ้านได้ในเวลาว่าง ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น และอาศัยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
การส่งเสริมศิลปาชีพนอกจากเสริมรายได้แล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย พัฒนาคุณภาพฝีมือ และสร้างสรรค์งานชิ้นเยี่ยมไว้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ พระองค์โปรดการปฏิบัติงานแบบครบวงจร เช่น เมื่อสนับสนุนให้ทอผ้าไหม ก็ให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและสาวไหมไปพร้อมกันด้วย


นักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์
พระองค์ทรงห่วงใยการศึกษาของชาติอย่างยิ่ง ด้วยวิญญาณแห่งความเป็นแม่และครู จึงทรงเข้ามาแก้ไขปัญหาการศึกษาอย่างเต็มพระกำลัง
สำหรับเด็กจากครอบครัวยากจนแต่เรียนดี พระองค์จะโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยทรงแก้ปัญหาทุกด้านไปพร้อมกัน ทั้งหาอาชีพให้พ่อแม่และพระราชทานการศึกษาแก่ลูก
การศึกษาที่พระราชทานไม่จำกัดเฉพาะหลักสูตรสามัญ หากเด็กมีผลการเรียนดีและต้องการเรียนต่อจริง ก็จะส่งเสียให้เรียนไปจนถึงปริญญาตรี แต่หากเด็กมีอายุมากเกินไป ก็จะทรงส่งเสริมให้เรียนวิชาชีพตามความสนใจและความสามารถ ทั้งนี้รวมถึงเด็กพิการ ตาบอด และหูหนวกที่มีความสามารถด้วย

ทรงเป็นขวัญและกำลังใจ
ในยุคที่ประเทศเพื่อนบ้านตกอยู่ในสภาพวิกฤต ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครไทยต้องบาดเจ็บล้มตายในการปฏิบัติหน้าที่ พระองค์ทรงห่วงใยในความมั่นคงของชาติอย่างยิ่ง จึงโดยเสด็จไปทรงเยี่ยมถึงฐานปฏิบัติการ ทรงนำเครื่องอุปโภคบริโภคและพระเครื่องไปพระราชทานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2518 วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงก่อตั้ง “มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์” เพื่อสงเคราะห์ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่บาดเจ็บหรือพิการ รวมทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสนับสนุนกิจกรรมของลูกเสือแห่งชาติและลูกเสือชาวบ้าน เพื่อให้ประชาชนมีความรักชาติ ความสามัคคี และมีวินัย


หากสนใจสั่งผลิตชิ้นงานที่เกี่ยวกับ พระราชกรณียกิจ ที่หลากหลายและเหมาะสม สวยงาม แข็งแรงโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ใช้งานได้ยาวนานและออกแบบให้ได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของลูกค้า สามารถสั่งผลิตชิ้นงาน ได้ที่นี่คลิก









